เพิ่มเติมจากห้องเรียน
การประดิษฐ์ว่าวจากใบไม้
ประเทศไทยอยู่ในเขตลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
พัดเข้าประเทศไทยระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
ลักษณะอากาศร้อนชื้นฝนตกชุกชาวนาไทยเริ่มออกสู่ท้องนาเพื่อไถหว่านข้าวกล้า
ในช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเป็นฤดูหนาวจะมีลมที่พัดเอาความแห้งแล้งและหนาวเย็นจากภาคใต้ของจีนมาสู่บริเวณของประเทศไทย
เรียกว่า”ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ” ในระยะนี้ตามชนบทของประเทศไทยจะเป็นเวลาเก็บเกี่ยวข้าวในท้องทุ่งนา
ลมที่พัดจากทิศเหนือลงใต้ชาวบ้านเรียก “ลมว่าว” ส่วนลมที่เล่นว่าวพัดจากทิศใต้ขึ้นเหนือในช่วงกลางฤดูร้อนเรียกว่า “ลมตะเภา”
ชาวนาและผู้รักการเล่นกีฬาว่าว จะประดิษฐ์ว่าวต่างๆ
ขึ้นสู่ท้องฟ้าเพราะมีกระแสลมดีและท้องทุ่งนากว้างขวางว่างเปล่า
กอรปกับการทำกิจกรรมเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ
หรือขณะเก็บเกี่ยวก็จะนำว่าวขึ้นผูกไว้ฟังเสียงดุ๊ยดุ่ยปานประหนึ่งว่ามีเทพยดามาขับกล่อมดนตรีให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการทำงาน
ในเวลาค่ำคืนผู้ที่ทำหน้าที่นอนเฝ้าข้าวที่นำมากองรวมไว้ในลานก็จะนำว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าฟังคีตบรรเลงเป็นเพื่อนแก้เหงา
การเล่นว่าวจึงเป็นประเพณีที่มีความผูกพันกับชาวนาไทยของทุกภาคตลอดมา
ระยะเวลาการเล่นว่าวแต่ละภาคแต่ละท้องถิ่นอาจจะแตกต่างกันบ้างตามสภาพของอากาศและภูมิประเทศ
ส่วนใหญ่จะประมาณสิ้นฤดูฝนเข้าฤดูหนาวไปสิ้นสุดประมาณปลายฤดูร้อนเข้าฤดูฝน
เด็กๆมักจะเล่นว่าวที่ทำและเล่นง่ายเช่นว่าวปักเป้า ว่าวงู เป็นต้น
ผู้ใหญ่จะเล่นว่าวที่ใหญ่และมีโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น เช่นว่าวจุฬา ว่าวแอก
เป็นต้น
ปัจจุบันประเพณีการเล่นว่าว นอกจากชาวไร่ชาวนาในชนบทนิยมเล่นแล้ว
ยังมีหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรต่างๆ
หันมาให้ความสนใจส่งเสริมประเพณีการเล่นว่าวมากขึ้น
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรมอันเกิดจากจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยมาช้านาน
เช่นการจัด
นิทรรศการว่าวไทย ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา
งานมหกรรมว่าวที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประเพณีว่าวที่จังหวัดสตูล
และเทศกาลว่าวที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้ขยายไปเป็นมหกรรมว่าวระดับนานาชาติ
การทำและการเล่นว่าวแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันตามคตินิยมที่นับถือและตกทอดมาจากบรรพชน
เช่นภาคอีสาน นิยมเล่นว่าวแอก ว่าวอีลุ้ม ว่าวจุฬาอีสาน เป็นต้น
ภาคใต้นิยมเล่นว่าวปลา ว่าวเดือน ว่าวหน้าควาย ว่าวจุฬาเป็นต้น
ส่วนภาคกลางนิยมเล่นว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวงู และว่าวประดิษฐ์เป็นรูปสัตว์หรือรูปสัญลักษณ์ต่างๆ
ทั่วทุกภาคของประเทศไทยที่มักจะพบเห็นอยู่เสมอคือว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า
แต่รูปแบบอาจแตกต่างกันบ้าง ถือได้ว่า ว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า
เป็นสัญลักษณ์ของว่าวไทยก็ว่าได้
ว่าวคือเครื่องเล่นชนิดหนึ่งส่วนใหญ่มีไม้ไผ่เป็นโครง
ปิดทับด้วยกระดาษ ผ้าหรือพลาสติก วิธีเล่นก็ปล่อยให้ลอยอยู่ในอากาศด้วยแรงลม
โดยมีเชือกปอ ด้ายไนล่อนหรือป่านสำหรับบังคับ
การเล่นว่าวนิยมในแทบเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว เวียดนาม
อินเดีย เขมร และไทยเป็นต้น สันนิษฐานว่าจีนเป็นชาติแรกที่คิดทำว่าวขึ้น แถบ
ยุโรปมีการเล่นว่าวบ้างแต่ไม่แพร่หลาย ทั้งนี้เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวย
ว่าวแต่ละประเทศจะมีรูปร่างแตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์ไม่แตกต่างกันมากนัก
รูปภาพกิจกรรมการเล่นว่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น